1.ไตคืออะไร
ไตเป็นอวัยวะภายในที่อยู่หน้ากล้ามเนื้อหลังของร่างกายบริเวณบั้นเอว ทั้ง2 ข้าง ปกติไตมี 2 อัน ลักษณะคล้ายเมล็ดถั่ว
ขนาดยาว 12-14 เซนติเมตร ในผู้ใหญ่
สำหรับเด็กจะมีขนาดเล็กกว่าตามสัดส่วนของร่างกาย
|
หน้าที่ของไต
1.
ผลิตปัสสาวะเพื่อกำจัดของเสีย ออกจากร่างกายโดยเฉพาะจากโปรตีน
2. กำจัดสารที่เป็นพิษ หรือยาบางชนิด
3.
ควบคุมการเป็นกรดหรือด่างในเลือด
4.
ควบคุมสมดุลของน้ำและเกลือแร่ในร่างกาย รวมทั้งความดันโลหิต
5.สร้างฮอร์โมนที่เกี่ยวข้องกับการสร้างเม็ดเลือดแดงและสร้างวิตามินดีที่เกี่ยวข้องกระดูก
·
หน่วยไตแต่ละหน่วยทำหน้าที่เหมือนตัวกรอง
·
ไตปกติตัวกรองจะเปิดเพื่อกรองเอาของเสียและน้ำส่วนเกินออก
·
ไตที่เสื่อม เช่น ไตจากโรคเบาหวาน
ตัวกรองจะตันและหนาตัวขึ้น
สาเหตุโรคไตเรื้อรัง
·
โรคทางพันธุกรรม เช่น ไตเป็นถุงน้ำ
·
โรคของเนื้อไตบางชนิด เช่น IgA
·
โรคเบาหวาน
·
โรคความดันโลหิตสูง
·
โรคนิ่ว
·
การอุดตันทางเดินปัสสาวะ เช่น ต่อมลูกหมากโต
·
การติดเชื้อทางเดินปัสสาวะบ่อยๆ
·
การใช้ยาแก้ปวดข้อพร่ำเพรื่อ
ระยะของโรคไตเรื้อรัง
ระยะของไต
|
การทำงาน
|
อัตราการกรอง
มิลลิลิตร/นาที
|
1
|
ไตเริ่มเสื่อมแต่การทำงานยังปกติ
|
>90
|
2
|
ไตเสื่อมและการทำงานลดลง
|
60-89
|
3
|
การทำงานของไตลดลงครึ่งหนึ่ง
|
30-59
|
4
|
การทำงานของไตลดอย่างมาก
|
15-29
|
5
|
ไตเรื้อรังระยะสุดท้ายก่อนฟอกเลือด
|
<15
|
การฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียมหรือด้วยวิธีล้างไตทางช่องท้อง อัตราการกรอง
<
6 มิลลิลิตรต่อนาที
โรคไตเรื้อรัง (ไตเสื่อมเร็วกว่าปกติ)
และไตวายคืออะไร
เมื่ออายุมากกว่า 30 ปีไตจะเริ่มทำงานลดลงหรือ
เสื่อมไปตามอายุขัยตามธรรมชาติไตเสื่อมจะเป็นไปอย่างช้าๆ โดยเฉลี่ยการทำงานของไตจะลดลงประมาณ
1% ต่อปี แต่บางภาวะที่ไตเกิดโรค
พบว่าไตจะเสื่อมลงเร็วกว่าการ เสื่อมตามธรรมชาติ
กรณีที่ไตเสื่อมลงอย่างรวดเร็วหรือหยุดทันทีเรียกว่า
“โรคไตวายเฉียบพลัน”
ซึ่งไตอาจจะกลับมาเป็นปกติได้ถ้าได้รับการรักษาที่เหมาะสม
แต่ถ้าไตเสื่อมลงอย่างช้าๆต่อเนื่องทำให้ไตเกิดความผิดปกติถาวร เรียกว่า“โรคไตเรื้อรัง”
ในกรณีที่ไตเกิดความเสื่อมอย่างมาก(ไตทำงานได้น้อยกว่า
15%ของไตคนปกติ) จะเรียกว่า “โรคไตวายระยะสุดท้าย”
ไตเรื้อรัง
· ประวัติ ปัสสาวะตอนกลางคืนบ่อย
อาจจะมีอาการ ขาบวมกดบุ๋ม อ่อนเพลีย คลื่นไส้ เบื่ออาหารหรือ อาเจียน สับสน และซึม
· ตรวจร่างกาย ซีด
ความดันโลหิตสูง ลมหายใจ มีกลิ่นของปัสสาวะ
· ตรวจปัสสาวะ พบตะกอนผิดปกติในปัสสาวะ
· ตรวจเลือด พบการทำงานของไตบกพร่อง
ติดต่อ กันนานอย่างน้อย 3
เดือน
·
ขนาดของไต มีขนาดเล็กน้อยกว่า 10 เซนติเมตรโดยเห็นได้โดยการทำ
อัลตร้าซาวด์
· ที่สำคัญ ในระยะแรกของโรคไตเรื้อรังท่านอาจไม่มีอาการผิดปกติใดๆ
ซึ่งตรวจวินิจฉัยได้จากความผิดปกติของเลือดเท่านั้น
สาเหตุ
· โรคทางพันธุกรรม
เช่นไตเป็น ถุงน้ำ
· โรคของเนื้อไตบางชนิดเช่น IgA
· โรคเบาหวาน
· โรคความดันโลหิตสูง
· โรคนิ่ว
· การอุดตันทางเดินปัสสาวะ
เช่น ต่อมลูกหมากโต
· การติดเชื้อทางเดินปัสสาวะบ่อยๆ
· การใช้ยาแก้ปวดข้อพร่ำเพรื่อ
การชะลอโรค
· ความดันโลหิตสูง <130/80 มิลลิเมตรปรอท
· เบาหวานควบคุมให้น้อยกว่า 110 มิลลิกรัมเปอร์เซนต์
· งดสูบบุหรี่
· การบริโภคอาหารที่ถูกต้อง
· การใช้ยาลดความดันบางชนิดที่สามารถ
ชะลอความเสื่อมของไต
· ระดับไขมันในเลือด (แอล ดี
แอล <100 มก/ดล.)
· รักษาโรคที่ทำให้ไตเสื่อมเร็วขึ้น
เช่น นิ่ว ต่อมลูก-หมากโต
· ไม่ใช้ยาแก้ปวดที่มีผลต่อไตพร่ำเพรื่อ
การรักษาทดแทนไต
ปัจจุบันมี 3 ทางเลือก
การฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียมเป็นการนำเลือดผ่านเข้าเครื่องไตเทียมผ่านไปยังเยื่อ
Hemodialyzer ซึ่งเป็น semipermeable membrane ซึ่งจะกรองเอาของเสียออก เลือดที่ผ่านการกรองก็จะกลับเข้าสู่เครื่องไตเทียม
และเข้าสู่ร่างกาย ทำให้กำจัดของเสีย คุมความสมดุลของน้ำและเกลือแร่ และรักษาระดับความดันให้ปกติ
การเตรียมการก่อนฟอกเลือด
ก่อนฟอกเลือดจะต้องมีการนำเลือดจากหลอดเลือดมาฟอกโดยทำได้ 2 วิธี
- ใช้เข็มเจาะเข้าหลอดเลือดที่หลอดเลือดบริเวณคอ
และหลอดเลือดขาหนีบ วิธีนี้ใช้ฟอกเลือดได้ 2-6 สัปดาห์
- วิธีที่สองเป็นการต่อหลอดเลือดแดง
และดำ [arteriovenous
[ A-V] fistular ]หลังต่อหลอดเลือดดำจะพองและขยายทำให้สามารถใช้เข็มเจาะเอาเลือดไปฟอกได้
วิธีนี้เป็นวิธีการถาวรแต่ต้องใช้เวลาให้หลอดเลือดดำพองตัว
ขณะฟอกท่านสามารถอ่านหนังสือหรือรับประทานอาหารได้
ใช้เวลาฟอก 2-4 ชั่วโมง อาทิตย์ละ2-3 ครั้ง
โรคแทรกซ้อนที่สำคัญ พบได้บ่อยคือ ความดันโลหิตต่ำ อาจเกิดจากผู้ป่วยกินยาลดความดันโลหิตก่อนฟอกและตะคริว
เนื่องจากร่างกายสูญเสียน้ำและเกลือแร่เร็วเกินไป ใช้เวลาในการปรับตัวหลายเดือน โรคแทรกซ้อนที่พบได้น้อยได้แก่ ไข้ เลือดออกทางเดินอาหาร คัน นอนไม่หลับเป็นต้น
ข้อห้ามการฟอกเลือดคือ ความดันโลหิตต่ำ และเลือดออก
ข้อปฏิบัติก่อนการฟอกเลือด
1.
ควรงดรับประทานยาลดความดันโลหิตก่อนฟอก
4-6 ชั่วโมง
2.
ถ้ามีการเสียเลือดมาก เช่นมีประจำเดือน
อุจาระดำ อาเจียนเป็นเลือด ให้แจ้งแพทย์ก่อนฟอกเลือดทุกครั้ง
การปฏิบัติตนขณะฟอกเลือด
1.
แขนข้างที่กำลังฟอกให้อยู่นิ่งๆ
2.
เตรียมอาหารมารับประทานขณะฟอกเลือด
3.
ถ้ามีอาการเวียนศีรษะ ใจสั่น
ขณะฟอกให้แจ้งพยาบาลผู้ดูแลทันที
ข้อควรปฏิบัติหลังฟอกเลือด
- หลังการฟอกเลือดใหม่จะมีการห้ามเลือดโดยใช้พลาสเตอร์หรือผ้าก๊อซปิด
เมื่อเลือดหยุดจึงเอาผ้าก๊อซออกและติดพลาสเตอร์
- รับประทานยาอย่างสม่ำเสมอ
- รับประทานอาหารตามคำแนะนำดังกล่าวมาแล้ว
- ชั่งน้ำหนักทุกวัน
โดยควบคุมมิให้น้ำหนักเพิ่มเกินวันละ 1 กก.
- หลังการฟอกเลือดให้ระวังการถูกกระแทกแรงๆเพราะจะทำให้เกิดช้ำได้
การรับประทานอาหาร
1.
ให้รับประทานโปรตีนจากเนื้อปลา
แทนจากถั่วและผัก
2.
เลือกอาหารที่มีโพแทสเซียมไม่สูงไม่ต่ำเนื่องจากสูงหรือต่ำไปจะทำให้เกิดผลเสียต่อหัวใจ(ผลไม้ที่มีโพแทสเซียมสูง
เช่น ทุเรียน ผลไม้แห้ง ลูกพรุน ลูกเกด กล้วย ฝรั่ง กระท้อน)
3.
จำกัดน้ำดื่มมิให้น้ำหนักเพิ่มเกินวันละ
1 กิโลกรัม
4.
งดอาหารเค็ม
5.
งดอาหารที่มีฟอสเฟตสูง(ถั่ว
นม เนย เบเกอรี่ ชา กาแฟ )
2.การล้างไตทางช่องท้องแบบถาวร
หลักการฟอกไตวิธีนี้คือการใส่สายเข้าไปในช่องท้อง แล้วใส่น้ำยาเข้าในช่องท้องเป็นระยะเวลาหนึ่งแล้วจึงปล่อยออก
ระยะเวลาในการฟอกขึ้นกับวิธีการฟอก เช่น (CAPD) ใช้เวลาประมาณ
6 ชั่วโมง ,(CCPD)ใช้เวลา 12 ชั่วโมง โรคแทรกซ้อนที่สำคัญคือ ช่องท้องอักเสบ ป้องกันโดยทำการล้างท้องแบบปราศจากเชื้อ
การดูแลสำหรับผู้ป่วยโรคไตวายที่ล้างไตผ่านทางหน้าท้อง
เนื่องจากผู้ที่ล้างไตผ่านทางหน้าท้องจะมีน้ำในท้อง
และกล้ามเนื้อหน้าท้องอ่อนแรง การยกของหนักจะทำให้เกิดอาการปวดหลังได้ง่ายจึงมีคำแนะนำดังนี้
- คำนึงถึงน้ำหนักที่จะยกว่าหนักไปหรือไม่
- ให้ยกของใกล้ตัวมากที่สุด
- เวลาจะยกของให้กางขาออก
ก้าวเท้าไปข้างหน้าหนึ่งก้าว
- ให้ย่อเข่าแทนการก้ม
- อย่ายกของจากที่ชั้นที่สูง
- อย่ายกของและบิดเอว
3.การผ่าตัดปลูกไต
คือการนำไตที่ไม่เป็นโรคมาผ่าตัดให้กับคนที่เป็นโรคไตวาย วิธีการได้มา อาจจะนำมาจากผู้ป่วยที่สมองตายแล้ว
หรือจากการบริจาคของญาติสายตรง ก่อนการเปลี่ยนไตแพทย์จะต้องตรวจเลือดและเนื้อเยื่อว่าเข้ากับผู้ป่วยหรือไม่เพื่อป้องกันการปฏิเสธเนื้อเยื่อ
หลังการเปลี่ยนไตแพทย์จะให้ยากดภูมิรับประทาน
เอกสารอ้างอิง
กรุงเทพฯ.
สมาคมโรคไตแห่งประเทศไทยและสำนักหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ.
(2556). คู่มือ
การจัดการดูแลผู้ป่วยโรคไตเรื้อรังระยะเริ่มต้น.
กรุงเทพฯ.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น